สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ในเครือสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์

                             ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

 

         

                                              Diarrhea    

                                                                      ตอนที่ 2

                                                                                                          น.พ. สุวัฒน์ สุวรรณวานิช

    

Diarrhea 2  

          ลักษณะของท้องร่วงก็มีหลายแบบให้เลือก แต่จะเอาชนิดเบา ๆก็คงจะมี  ไม่ว่าแบบไหน กรรมวิธีที่จะไม่ให้ดูทุเรศตาก็คงเหมือนกันคือต้องเดินเร็ว ๆ หรือวิ่งเหยาะ ๆ เพื่อเข้าห้องส้วมให้ทัน  ที่มีแบบหลาย ๆ อย่างให้เลือกนี่ก็แล้วแต่ชนิดของเชื้อโรคที่คุณรับประทานเข้าไป

          หนึ่งแบบท้องเดิน แถมคลื่นไส้และอาเจียร (มันยุ่งหน่อย ตรงที่ว่าจะเรียกว่า ท้องเดิน ท้องร่วง ท้องเสีย ถ่ายท้อง ขี้ไหล เป็นชื่อที่ตรงโรคที่สุด แต่ตี๋เด็กกรุงอย่างผมถ้าใช้คำนี้เดี๋ยวจะถูกหาว่าไม่มี ศิวิไล) ไอ้อาการแบบนี้มักจะเกิดจากอาหารเป็นพิษ  จากเชื้อโรคเม็ดกลม ๆ เกาะเป็นกลุ่ม ๆ ชื่อ Staphylococcus นอกนี้ก็อาจจาก Bacillus Cereus (ตัวนี้มักจะเกิดจากข้าวผัดค้างคืน และอุ่นใหม่) และอาจจาก Clostridium Perfringens ปล่อยพิษ Enterotoxin ออกมาในอาหาร เพราะทิ้งอาหารไว้ให้เชื้อโรคมันแพร่พันธุ์มากและเร็ว ในอุณหภูมิอุ่นพอดี ๆ ที่มันจะเพาะเชื้อได้อย่างสบาย พิษนี้แม้จะต้มลวกก็ทำลายพิษมันไม่ได้ ตำราบอกว่าตัวพิษนี่มันจะเกาะที่ Receptors หรือขั้วรับสัญญาณในลำไส้ แล้วแถมส่งสัญญาณไปที่สมองส่วนล่างตรงที่ทำให้เกิดอาเจียรได้ ส่วนที่ลำไส้ก็ทำให้ลำไส้ปั่นป่วน ฟังผมพูดตั้งยาว ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร  เอาแค่พิษตัวนี้ทำให้เกิดอาการอาเจียรมากและท้องเดินภายในหนึ่งถึงสองชั่วโมง แต่ไม่มีไข้ อาจมีแต่ครั่นเนื้อครั่นตัวเท่านั้น แล้วทั้งหมดก็หายไปเองภายในวันถึงสองวัน

                                                                      ว่าจะไม่พูดถึงเที่ยวเขมรแล้ว แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวโรคครับ เลยขอยกเว้น ตอนเย็นวันที่สอง ทัวร์พาไปกิน บุฟเฟ่ที่ร้านซึ่งมีการแสดงรำเขมร คนต่างชาติเข้าดูมาก เกิดแอร์เย็นเสียขึ้นมา ในห้องที่นั่งมีอุณหภูมิตั้ง 32 องศาเซลเซียส ก็ราว ๆ 89 ดีกรีที่นี่แหละ (เป็นอุณหภูมิที่เชื้อโรคสามารถแพร่พันธุ์และสร้างพิษได้เร็ว) ผมทนร้อนไม่ได้เลยกินอะไรนิดหน่อยแล้วก็ออกจากห้อง ไม่ขอกินต่อและไม่ขอชมละครเขมร แต่ขอออกมาข้างนอกร้านคุยกับไกด์ที่ทนร้อนไม่ไหวเหมือนกัน ปรากฏว่าคืนนั้นคณะท่องเที่ยวของเราที่มีอยู่ยี่สิบหกคน ท้องเสียอาเจียรเสีย เก้าคน รวมทั้งภรรยาผมด้วย ถามดูว่าไปกินอาหารอะไรเข้า แต่ละคนก็บอกกันคนละอย่าง แล้ววันรุ่งขึ้นต้องขึ้นเครื่องบินไปเมืองพนมเปน แต่ละคนที่เกิดป่วยตอนกลางคืนยังมีอาการผะอืดผะอมอยู่ เพราะมันอยู่ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง ฤทธิ์มันยังอยู่ ตอนขึ้นเครื่องบินแต่ละคนที่ไม่สบายหน้าซีด ๆ ทำท่าจะเป็นลม เพราะเครื่องบินที่พาไปเป็นเครื่องบินใบพัดของ ไทยแอร์ ความกดดันภายในเครื่องบินก็เปลี่ยนไปด้วย เพราะไม่ได้บินสูงมาก ก็ไม่รู้ว่าเขาปรับความดันในเครื่องหรือเปล่า เมื่อถึงเมืองพนมเปนเวลาเที่ยงวัน ไกด์พาไปกินร้านอาหารจีนชั้นดี  เด็กคนหนึ่งที่ไปเที่ยวด้วยเกิดอาเจียร พรวดออกมาแถวหน้าร้านอาหาร เลยทำให้ความหิวของนักท่องเที่ยวหดลงไปกว่าครึ่ง ส่วนคนที่ป่วยอยู่แล้วได้กลิ่นอาหารจีนก็ทำท่าจะอาเจียนออกมาอีก เห็นเข้าห้องน้ำกันหลายคน แล้วขอแยกตัวออกไปนั่งที่หน้าร้านที่พักแขก ไม่ขอโดนกลิ่นอาหาร ดื่มได้แต่น้ำโคล่าและชาอุ่น ๆ กัน   ผมนะโชคดีหน่อย กินดะ อาหารมีมากและดีด้วย ก็คงเรียกว่ามื้อนี้เป็นทรมานโภชนาของคนอื่นก็แล้วกัน

        หลังจากทรมานโภชนาแล้ว ทัวร์พาไปเที่ยวรอบเมืองวังและวัดพระแก้วจำลอง รถบัสเกิดแอร์เสียขึ้นมา คนป่วยทนนั่งรถนี่ไม่ไหว ทำท่าจะเป็นลมกันอีก เลยขอร้องให้เปลี่ยนรถคันใหม่ที่แอร์มันทำงานดี ตอนพาไปดูวังหลวงและวัดพระแก้วท่าทางแต่ละคนจะดีขึ้น แต่แล้วตอนจบเกิดพาไปดูกระดูกคนตายและคุกที่ทรมานให้คนตายช้า ๆ แต่ละนักท่องเที่ยวที่ป่วยไม่มีความสุขเอาเสียเลย เพราะหน้าซีด ๆ ขอดมแต่ยาดม นี่แหละหนา การท่องเที่ยวถ้าเกิดป่วยกลางคัน มันหมดสนุกจริง ๆ ภรรยาผมเขาบอกว่าสาปแล้ว ไม่ขอมาเขมรในชาตินี้อีกแล้ว ก็เพราะโดน Food Poisoning นี่อย่างจังเลย

       ที่ซวยกว่านั้น ไกด์ทัวร์ก็ไม่มียาแก้ท้องเสีย ร้านขายยาก็มีแต่ยาหม่องลิงอุ้มลูกท้อ  ดมแก้เป็นลมเท่านั้น และยาทันใจแก้ปวดหัว อ้ายที่แก้ปวดท้องไม่มีขาย ก็ได้แต่ดื่มโคล่าที่เขย่าเอาฟองออก หรือน้ำชาเท่านั้น

       การรักษาโดยเฉพาะโรคนี้ไม่มีครับ แต่การช่วยให้หายและฟื้นเร็วขึ้นนะมี ข้อที่สำคัญที่สุดคือพัก เหมือนที่เล่า พรรคพวกที่ไปเที่ยวเขมร มันทรมานขนาดไหนที่ต้องเดินทางต่อไปด้วยเครื่องบินและรถทัวร์ทั้ง ๆที่ไม่สบาย การที่มันอาเจียรก็แปลว่าร่างกายพยายามกำจัดพิษออกทั้งทางปากและถ่ายทางทวาร มันเลยต้องอ๊วกและถ่ายบ่อย ๆ อาจารย์บางสำนักก็บอกว่าให้ธรรมชาติกำจัดพิษออกไปแหละดี เพราะโดยมากอาการจะอยู่แค่วันหรือสองวันเท่านั้น ส่วนผมถ้ามีอะไรจะช่วยกำจัดอาการได้ก็ต้องพยายามใช้ละ แต่จะให้อะไรกินทางปาก ก็คงอาเจียรออก จะเสียบก้นก็ถ่ายออกเสียหมด มีอยู่รูเดียวคือฉีดยาทางผิวหนัง ถ้าอาเจียรมากก็มียาพวกนี้พอจะหยุดหรือทุเลาได้ เช่น Phenergan, Compazine แม้กระทั่ง Valium ที่สามารถฉีดเข้ากล้ามเนื้อได้ แต่ผมไม่ได้พกยาพวกนี้ไปสักอย่าง หมอเลยทำอะไรไม่ได้ ได้แต่แนะนำ

      ถ้ายังทานไหว และมีไข้ เหงื่อแตก แสดงมีเชื้อโรคอยู่ในตัว ยาพินิซิลลินนั้นดีที่สุดและราคาถูกด้วย กินมันเข้าไป หนึ่งกรัมเลย ยาแก้ปวดเมื่อย ยาแก้ท้องเสียตั้งแต่ Immodium,  Lomotil,  Pepto bismal ใช้ได้ทั้งนั้น

      การอาเจียรและถ่ายมาก แม้กระทั่งเหงื่อออกมากจากไข้ก็ทำให้ขาดน้ำขาดเกลือได้ ถ้าไม่อาเจียนก็ควรดื่มน้ำให้เท่าที่จะมากได้ แม้จะมีอาการคลื่นไส้นิดหน่อย ก็ควรพยายาม แต่ถ้าได้น้ำซุบใส ๆ แบบน้ำก๋วยเตี๋ยวยิ่งดีใหญ่ เพราะมีเกลืออยู่มาก ฝรั่งเขาถึงให้กิน Chicken Noodle Soup อย่าลืมน้ำโคลา หรือเซเว่นอัพ สไปร๊ต์ ถ้าจะมีน้ำเกโตเร๊ตก็ดีมากด้วย(ประเทศนี้เขามีน้ำ Pedialyte ดื่มทดแทน แต่ผมว่าน้ำโคล่า สไหร๊ท์มันก็พอแล้ว) เพราะอยู่ต่างแดน จะเอาน้ำก๋วยเตี๋ยวที่ไหนมากิน เอาละถ้าเรารักษาให้ประตูบนเปิดทำการได้ จะได้ให้น้ำเข้าไปทดแทนได้ ทางข้างล่างปล่อยมันเถิด รำคาญหน่อย พิษจะได้ถูกขับออกมาได้ แต่ปวดท้องมาก ถ้ามียาแก้ดังที่เอ่ยข้างต้นก็วิเศษเลย

     ข้อสังเกตว่าถ้ายังขาดน้ำอยู่หรือเปล่า หลังจากพยายามดื่มน้ำหรือซุ๊ปมากพอแล้ว ให้ดูที่น้ำปัสสาวะ ว่าแต่ละครั้งขับออกมาจำนวนเท่าไร ถ้าจำนวนน้อยและยังสีเข้มข้นจนเป็นส้มหรือเปล่า ถ้าจำนวนมากพอสมควร และสีเหลืองจาง ๆ (ดูจากในโถส้วมก็พอแล้ว ไม่ต้องเอาถ้วยไปรองวัดหรอก) แสดงว่าได้น้ำท่าเข้าไปทดแทนเข้าที่แล้ว แต่ก็คงต้องดื่มต่อไปถ้าการถ่ายยังไม่หยุด

     ถ้าอยู่เมืองไทยเราอาจขอให้พรรคพวกต้มน้ำขิงแก่ ๆ หน่อย เขาว่าช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียรได้

          สอง. แบบที่สองนี่ขี้ไหลชนิดเป็นน้ำ ไม่มีไข้ ไม่คลื่นไส้อาเจียร แบบนี้อาจเกิดในพวก เครียด Jet Lag อาหารแปลกชนิด แต่ถ้านานกว่านั้นมันมักจะเกิดจากการติดเชื้อจาก แบคทีเรีย หรือในพวกเป็นหวัดใหญ่ พวกนี้เป็นไวรัส

       แบคทีเรียตัวสำคัญก็มาจากอุจจาระของคนทำอาหาร ล้างอาหาร ล้างจาน เขาเรียกรวม ๆ กันว่า Food Handlers เชื้อโรคตัวนี้เรียกว่า E. Coli พวกคนในครัวเล่นเข้าห้องน้ำแล้วไม่ล้างมือด้วยน้ำอุ่นและสบู่ตามคำสั่งที่ติดไว้บนกำแพง มันแปลกอยู่ ตัว E.Coli มันเป็นเชื้อแบคทีเรียธรรมดาในลำไส้หรือขี้ของทุกคน มันอยู่ในลำไส้คนหนึ่งก็ดี ๆ อยู่ แต่พอเปลี่ยนบ้านเลขที่ ในท้องไส้ของเจ้าของใหม่ มันจะอาละวาดทันที (เพราะมันชอบเปลี่ยนความสามารถได้เก่ง และเพิ่มจำนวนได้รวดเร็ว กลายพันธุ์ เขาเลยเอามาทำการเปลี่ยนแปลงในตัว DNA ของมัน  โดยกรรมวิธีของ Genetic Engineering ให้มันทำยา ทำเคมีชีวนะ ทำอาหารโปรตีน วันหนึ่ง เราอาจจะได้ทานอาหารจานอร่อยจากเชื้อ E.Coli ในอุจจาระของใครสักคนก็ได้) อีกตัวที่สำคัญในเอเชียชื่อยาวหน่อย Campylobacter Jejuni ตัวนี้มาจากคนที่เป็นเชื้อโรคนี้ในแถวลำไส้เล็กส่วนต้น ๆ อาการจากเชื้อพวกนี้จะทำให้ท้องเสียวันละเจ็ดแปดครั้งต่อวัน ไม่อาเจียรหรือคลื่นไส้ พอจะไปตีกอร์ฟไหว เพราะไหน ๆ ก็ไปทัวร์ขึ้นเครื่องบินไปเพื่อตีกอร์ฟ ก็ต้องตีละ เพราะยังไหวอยู่ นอกนี้อาจปวดท้องหน่อยตอนจะถ่าย นอกนี้อาจท้องอืด ผายลมบ่อย

     อย่าเชียวนะครับ อย่าให้ลมออกมา ตด โดยไม่เห็นห้องส้วม เพราะมันจะพาเอาน้ำออกมาด้วย ทีนี้จะยุ่งกันใหญ่ หากหากางเกงเปลี่ยนไม่ได้ จะลำบาก และจะหาใครช่วยคงยาก เพราะไม่มีใครเขาอยากเข้าใกล้เพราะกลิ่นมัน

    จำไว้ด้วยว่า การไปปัสสาวะทั้ง ๆที่ยังไม่อยากถ่ายอุจจาระ ตอนกำลังมีอาการท้องเสีย มักจะพาลมตดออกมาแล้วแถมเอาน้ำอุจจาระไหลออกมาด้วย (ในคนปรกติ การถ่ายอุจจาระจะมีปัสสาวะไหลด้วย มันธรรมชาติครับ ไหน ๆ ก็เสียเวลาแล้ว ส่วนตอนปัสสาวะไม่จำเป็นต้องถ่ายอุจจาระ ยกเว้นพวกท้องเสียเท่านั้น) มีวิธีที่ดีก็คือไปหาซื้อผ้าอานามัย แล้วคาดไว้ แต่เอาส่วนผ้ามาอยู่ทางก้น อย่างนี้แล้วพอจะไปตีก๊อล์ฟต่อได้  ถ้าไม่มีผ้าอนามัย กระดาษาเช็ดมือในห้องครัวผับไว้สามสี่ชั้นก็คงช่วยได้หน่อย จนเจอห้องส้วม

                    

              กลับไปตอนที่ 1                                                                                  อ่านต่อ ตอนที่ 3

                    

หมายเหตุ : ลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของบทความนี้ เป็นของผู้เขียนบทความแต่เพียงผู้เดียว ท่านผู้อ่านที่สนใจจะนำบทความนี้ ไปเผยแพร่ สามารถติดต่อได้ที่ info@cualumni.us             

                                                       

                     ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

                          Copyright 2006 Chulalongkorn University Alumni Association of California