สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ในเครือสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์

                             ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

 
 

                                                สุราก็แปลว่าเหล้า

                                                                                      ตอนที่ 10

                                                                                                        .พ. สุวัฒน์ สุวรรณวานิช

แอล คาโปน ( Al Capone ) ตอนจบ

       แอล คาโปน ผู้นี้นับว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ถึงกับถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ชื่อของเขายิ่งใหญ่พอๆกับคุก บนเกาะ Al Catraz ที่ซาน ฟรานซิสโก ถ้าใครไม่เคยไปเที่ยวคุกนี้ ตอนไปซาน ฟรานซิสโก ก็ไปที่ท่าเรือแถว Fishermans’ Wharf ริมท่าน้ำ ตีตั๋วข้ามน้ำไปขึ้นเกาะนี้ เพราะคุกนี้ตั้งอยู่บนเกาะละครับ หรือถ้าขี้เกียจไปก็เช่าหนัง The Rock มาดูก็ได้เหมือนกัน คุกนี้เดี๋ยวนี้ไม่ใช้แล้ว แต่เก็บรักษาไว้เป็นสถานอนุรักษ์ของประวัติศาสตร์      

          แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมด้วยเล่า  ก็เกี่ยวสิครับ ผมกำลังเขียนเรื่องเหล้าอยู่ ก็นายคนนี้มันเป็นเอเยนต์เหล้าเถื่อนเรียกว่า Bootlegger ตัวยงของแถวชิคาโก้ในราวๆปี ค..1920 ขึ้นไป แต่เอเยนต์คนนี้ไปธุระที่ไหนก็ต้องมีลูกน้อง ถือปืนกลล้อมหน้าล้อมหลังกันเป็นแถว มันชอบฟังเพลงแจ๊สJazz มาก เพราะกำลังนิยมกันมากในสมัยนั้นพอดีเขาว่าเสียงเพลงแจ๊สนี่เวลามันเคล้ากันกับเสียงปืนกล Thomson Machine Gun แต๊กๆๆ มันเข้ากันดีกับบรรยากาศมาก ฟังแล้วมันเร่าร้อนซึ้งใจดีนัก      

          มันมีลูกน้องถึงพันคน มันจ่ายเงินเดือนดี แต่ต้องจงรักภักดีต่อมัน ถ้าลูกน้องคนใดทรยศต่อมัน จะถูกฆ่าตายแบบทรมานทุกคน มันคุมหมดทั้งแถบมิดเวสต์ ตั้งแต่วิสคอนซิ่นยันเซ็นต์หลุยส์ ชิคาโก้ ดีทรอยส์ เรียกว่าครึ่งประเทศทีเดียว ถ้าใครอยากรู้ก็ไปเช่าหนังเรื่อง Al Capone กับเรื่อง Untouchable มาดูจะซึ้งยิ่งขึ้น

          รัฐบาลจับมันไม่ได้ไม่ว่าข้อหาเหล้าเถื่อนหรือข้อหาฆ่าคนตาย เพราะมันจ่ายเงินให้คนที่แต่งเครื่องแบบทุกคนในท้องถิ่นที่มันคุมอยู่เป็นเงินเดือนอยู่แล้ว เพราะคนที่เห็นตอนก่ออาชญากรรมก็ไม่มีใครยอมเป็นพยาน เพราะอาจถูกเก็บก่อนจะพูด แถมมันยังมีทนายความชั้นดีแก้ต่างด้วย เลยตั้งข้อหามันไม่ได้สักที จนสุดท้ายรัฐบาลจับมันในข้อหาไม่เสียภาษี เพราะคิดแล้วมันหาเงินได้กว่า 300 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่เคยเสียภาษีแม้แต่แดงเดียว จับติดคุกสิบเอ็ดปีบนเกาะ Al Catraz แต่ถูกอภัยโทษภายหลังห้าปีเพราะป่วยด้วยโรคผู้หญิง ซิฟิลิสขึ้นสมอง แล้วตายด้วยโรคบ้าคลุ้มคลั่งในบ้านที่ไมอามี่

          กฎหมายในรัฐธรรมนูญ Amendment 18 อันเกี่ยวกับห้ามเหล้าข้อนี้ เป็นที่เกลียดชังของคนอเมริกันเกือบทั้งหมด และก็สอนให้คนอเมริกันทำผิดกฎหมายกันทั่วหน้า สอนให้คนที่มีสันดานชั่วให้รู้จักทำชั่วมากขึ้น

นายแอล คาโปน นี่ เป็นบุคคลที่มีจิตใจวิปริต ที่เขาเรียกว่า Psychopath ที่จะคอยทำชั่วตลอดเวลา จำได้ในหนังเรื่อง Silence of the lamb ที่นางเอกทางราชการที่เคยเรียนวิชา Criminology จะต้องไปคอยถามคำถามกับอาชญากรตัวสำคัญที่เป็นโรคทาง Psychopath ว่าผู้สงสัยที่กำลังตามจับอยู่นั้นเขากำลังคิดที่จะทำชั่วอะไรต่อไป ถ้าบุคคลที่เรียนวิชานี้แล้วเอาวิชานั้นมาทำผิดเสียเอง คงจะจัดการกับเขายากมาก คงต้องเรียกว่าไม่รู้ทันเขาหรอกเพราะพวกนี้มีเล่ห์เหลี่ยมมากมาย โดยคิดชั่วอีกขั้นหนึ่งที่เราคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำได้ เพราะยิ่งถ้าเขามีเงินมากมาย สามารถเปลี่ยนกฎหมายตามที่ต้องการ ก็ยิ่งลำบากใหญ่ เพราะเรียกว่าทำถูกต้องตามกฎหมาย มีตัวอย่างให้เห็นในเมืองไทยปัจจุบันนี้ นอกนี้ทั้งครอบครัวยังเป็นโรคจิตแบบนี้กันหมด คอยจะทำผิดทางอาญากัน โดยที่กฎหมายทำอะไรพวกเขาไม่ได้ อย่างนี้คงต้องเรียกว่า สืบกรรมพันธุ์กันมา

 ตำรวจอเมริกาก็ไม่ยอมจับใครในเรื่องเหล้านี่ เพราะจับไม่หวาดไม่ไหว แล้วตำรวจเองก็ดื่มด้วยเหมือนกัน  เมื่อทหารผ่านศึกสงครามครั้งแรกสี่ล้านคนกลับบ้าน ก็พยายามต่อต้านกฎหมายข้อนี้ และต่างก็ไม่กลัวกฎหมายกัน ต่างคนต่างทำต่างดื่มกัน แต่เหล้าที่ทำขายมันคุณภาพแย่มาก บางทีต้องใช้อ่างอาบน้ำแช่หมักเหล้า เลยเรียกว่า Bathtub gin บางบ้านก็เอาถังที่ทำด้วยตะกั่ว Lead มากลั่นเหล้า ทำให้คนดื่มเป็นโรคพิษสารตะกั่วไปด้วย เกิดขาดเลือด เส้นประสาท และสมองเสื่อม ปวดท้องและท้องผูก คือคนดื่มนอกจากเกิดโรคของพิษสุราแล้วยังเกิดพิษจากตะกั่วอีกด้วย

 รสชาติของเหล้าเถื่อนก็แย่มาก เลยต้องผสมอะไรต่ออะไรเข้าไปให้มันอร่อยพอจะดื่มได้ แถมเอาขนไก่เสียบที่ขอบถ้วยไว้ให้ดูสวย ให้รู้ว่าเป็นเหล้าผสม เลยเรียกว่าเหล้าค็อกเทล (Cocktail)

          กฎหมายรัฐธรรมนูญที่ห้ามทำ ขาย กินเหล้า เป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ในทางรักษากฎหมายหรือทางศีลธรรม  ในปี 1933 เลยออกกฎหมายแก้ยกเลิกกฎหมายรัฐธรรมนูญข้อนี้เป็นข้อที่ยี่สิบเอ็ด

          ระหว่างช่วงสิบสี่ปีนี้ คนตายจากการถูกฆ่า กินยาพิษที่เอามาแก้ขัดพิษสุราเช่นน้ำอบที่ทำด้วยแอลกอฮอล์ ที่ทำจากต้นไม้ Methyl Alcoholน้ำยาละลายสี แม้กระทั่งน้ำยาขัดรองเท้า ก็ยังดื่มกัน ทำให้คนตาบอด สมอง ตับ ไตและปอดพิการก็มาก

ความเชยของผมที่ไม่ค่อยรู้เรื่องน้ำอบเลย ไปเที่ยวยุโรปไปเจอน้ำขวดเล็กๆ ในห้องน้ำเขียนว่า Aqua Toilette มันก็แปลว่าน้ำห้องส้วม ผมก็คิดว่าที่ประเทศยุโรปนี่ดี เวลาถ่ายเสร็จแล้วเขาต้องเอาน้ำในขวดที่ใส่โถส้วมด้วย ผมก็เลยเททั้งขวดลงในโถส้วม หลังจากชักโครกแล้ว เล่นเอากลิ่นฟุ้งไปหมดทั้งห้องน้ำและห้องนอน ลูกสาวรู้เรื่องดี เขาว่าขวดนี้เขาเอาไว้ทาตัวหลังอาบน้ำ ไม่ใช่ใส่โถส้วม ผมก็ลืมดื่มดูว่าเป็นแอลกอฮอล์หรือเปล่า อาจทำให้ตอนถ่ายหนักจะได้หอม

          ทำให้นึกถึงเพลงลูกกรุงที่เขาร้องว่า ห้ามอาทิตย์ ห้ามดวงจันทร์ หยุดแค่นั้นค่อยห้ามดวงใจ คงต้องเปลี่ยนเป็น ห้ามอาทิตย์ ห้ามดวงจันทร์ หยุดแค่นั้นค่อยห้ามดื่มน้ำจัณฑ์

          ถ้าเป็นผู้หญิงสาว ผมก็คงจะเสร็จผู้ชายไปนานแล้วแบบดอกบ่อยๆเพราะเชื่อคนง่าย เมื่อพรรคพวกบอกว่า ดื่มไวน์แดงวันละนิดแล้วจะให้ ทำให้หัวใจแข็งแรง ความคิดมันแล่นดี ขึ้นเขียนอะไรมันก็ปะติดปะต่อกันและสระสลวยขึ้น ความคิดมันแล่นดี แต่บทความที่เขียนอาจไม่เข้าท่า อย่างที่คำพูดเช็คสเปียร์กล่าวไว้ว่า “It provoke the desire ,but it takes away the performance “สองบทความก่อน ผมนอนคิดอยู่หลายเดือน ตอนนี้ผมเพิ่งจะแปลออก

          ตรงหน้าผมมีหนังสืออยู่สามเล่ม เล่มแรก Poisoning หรือยาพิษ เล่มสองคือ Substance Abuse and Addiction การติดยาดื่มและเสพติด เล่มสามคือ Why we get sick and Diseases of Civilization. ผมอ่านแบบคร่าวๆเพราะไม่อยากอ่านแบบละเอียด จะทำให้ผมเสียความรู้สึกที่ดีต่อเครื่องดื่มที่ผมชอบ  และถ้าเล่าถึงความไม่ดีทั้งหลายของเหล้า ผู้อ่านทั้งหลายที่ชอบของพรรค์นี้ ก็จะพลอยเกลียดหน้าผมด้วย 

 

                     กลับไปตอนที่ 9                                                         

 

   หมายเหตุ : ลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของบทความนี้ เป็นของผู้เขียนบทความแต่เพียงผู้เดียว ท่านผู้อ่านที่สนใจจะนำบทความนี้ ไปเผยแพร่ สามารถติดต่อได้ที่ info@cualumni.us             

                                                       

                     ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

                          Copyright 2005 Chulalongkorn University Alumni Association of California