เรื่อง หมา หมา.............

โดย อัศวินี

แหม อ่านชื่อเรื่องแล้วอย่าเพิ่งตกใจนะ เจ้าคะ อิฉันไม่ได้ตั้งใจจะเขียนเรื่องไม่ดี ไม่งาม หรือเรื่องไม่เป็นเรื่องแต่อย่างใด เพียงแต่อยากจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับสุนัขเท่านั้น เพราะปกติเป็นคนชอบสุนัขอยู่แล้ว ที่บ้านอิฉันเองก็มีเลี้ยงอยู่หลายตัว.....

เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสไปเดิน pet shop กับลูกสาวซึ่งชอบสุนัขเป็นชีวิตจิตใจ ตามปกติแล้ว สุนัขที่เรามักจะพบเห็นทั่วๆไปในร้าน ก็มักจะเป็นพันธุ์ที่ คนนิยม เช่น Labrador, Beagles, Schnauzer หรือ Yorkies แต่คราวนี้กลับเจอพันธุ์แปลกๆ ที่แม้แต่ชื่อก็ไม่คุ้นตา คุ้นหูเลย อย่างเช่น Yorkipoos , Schnoodles, Maltipoos, Peekapoos และ Puggles อะไรกันหว่า สุนัขพันธุ์พวกนี้ไม่เคยเห็นเลย แถมราคาก็แพงหูฉี่ ตัวละเป็นพันๆเหรียญ แต่พูดก็พูดเถอะ มันน่ารักจนลูกสาวอิฉันเกือบไม่ยอมกลับบ้าน

มาถึงบางอ้อ ก็ตอนที่คนขายอธิบายให้ฟังว่า สุนัขชื่อแปลกๆ พวกนี้ เป็นสุนัขพันธุ์ผสม ชื่อที่แปลกๆก็มาจากชื่อสายพันธุ์ ของพ่อและแม่ เอามารวมกัน อย่างเช่น Labradoodle ก็เป็นพันธุ์ผสมระหว่าง Labrador Retriever กับ Poodle สุนัขพันธุ์ผสมพวกนี้มักจะได้รับลักษณะที่ดีๆ มาจากพ่อและแม่ เช่นไอ้เจ้า Labradoodle ตัวข้างซ้ายในรูปนี้ ได้ลักษณะเด่นของ Poodle มาคือ ขนมันจะไม่ร่วงมากทำให้ไม่เกิดการแพ้ขนสัตว์ในมนุษย์ (hypoallergenic) ซึ่งเหมาะสำหรับคนรักสุนัขที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือชอบใส่เสื้อสีดำหรือสีเข้ม (ท่านที่เลี้ยงสุนัขจะทราบดี ว่าทำไม) นอกจากนี้ ลักษณะเด่นอย่างอื่นๆ ของ Poodle เช่น มีอายุที่ยืนยาวกว่า สายตาดีกว่า และมีความเฉลียวฉลาดกว่าพันธุ์อื่นๆ ก็ได้ถูกถ่ายทอดมาที่เจ้าลูกผสม Labradoodle ดังกล่าวด้วย

เอาหละ พอได้ idea แล้วใช่ไหมเจ้าค่ะ ถ้าเราอยากได้ลักษณะเด่นของสุนัขที่เราชอบ แต่ต้องการขจัดข้อเสียที่มีของพันธุ์นั้น ก็ให้พยายามหาพันธุ์อื่นที่มีลักษณะเด่นอย่างอี่นมาข่ม เช่น เราชอบสุนัขพันธุ์ Golden Retriever ที่น่ารัก แต่ไม่ชอบที่มันมีปัญหาทางด้านสะโพก (hip) ไม่ดีและมักจะมีปัญหาเสมอ เราก็จับมันมาผสมกับ Poodle ที่ไม่มีปัญหาทางด้านสะโพก แถมขนไม่ร่วงบ่อย แต่ค่อนข้างจะอยู่ไม่ค่อยสุข (too energetic) เราก็จะได้ Goldenpoodle ที่ขนไม่ร่วงมาก ไม่มีปัญหาทางด้านสะโพก และไม่ค่อย energetic เท่า poodle ดูๆแล้วก็น่าจะดี เพราะเอาลักษณะเด่นๆมาหลายอย่าง มีข้อเสียก็ตรงที่ราคาสูงเท่านั้น อย่างเจ้า Labradoodle นี่ ราคาลูกสุนัขที่มีสายพันธุ์ดีๆ ตัวนึงตกประมาณ 1,800-2,500 เหรียญทีเดียวแหละเจ้าค่ะ

นอกจากนี้แล้ว สุนัขพันธุ์ผสมอื่นๆ ที่นิยมกันก็มี อาทิ เช่น Schnoodle ซึ่งเป็นพันธุ์ผสม ระหว่าง Schnauzer กับ Poodle หรือ Puggle ที่มาจากการผสมระหว่าง Pug กับ Beagle เป็นที่น่าสังเกตว่าลูกสุนัขที่ได้จากการผสมระหว่างสายพันธุ์แท้ ของสองสายพันธุ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยเช่นนี้ จะให้ลูกสุนัขที่มีลักษณะเด่นของแต่ละสายพันธุ์ และมีสุขภาพแข็งแรงกว่า พ่อและแม่ของมันอีก แต่มีข้อแม้ว่า ตัวพ่อและแม่ควรเป็นสายพันธุ์แท้ เพื่อให้แน่ใจว่า เป็นสองสายพันธ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกันจริงๆ

จากการสอบถามเพื่อนอิฉันที่เป็น หมอหมา (เอ๊ย ไม่ใช่ สัตวแพทย์...ขอโทษทีเจ้าค่ะ ความที่เรียกเพื่อนว่า หมอหมา เสียติดปาก) ได้ความว่า แม้ว่าสุนัขพันธุ์ผสม ดังกล่าวนี้จะให้ลูกสุนัขที่ แข็งแรง และมีลักษณะเด่นจากทาง พ่อและแม่ก็ตาม ไม่มีใครรับประกันได้ว่า จะได้ผล 100% ตามทฤษฎี เพราะฉะนั้นในการเลือกซื้อ ลูกสุนัขพันธุ์ผสมแบบนี้ ควรมีขั้นตอนในการเลือกซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าได้พันธุ์ที่ดีจริงๆ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 ท่านสามารถหาข้อมูลได้ทาง อินเตอร์เนท ฟาร์มที่ทำการผสมลูกสุนัข (breeder) ดังกล่าวนี้ มักจะมีเวปไซท์ของตัวเอง พยายามหาข้อมูลให้มากที่สุด เกี่ยวกับสายพันธุ์ที่ท่านสนใจ หา ข้อมูลอ้างอิง (reference) จากเพื่อนฝูง สมาคมหรือหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เมื่อได้ breeder ที่ต้องการแล้ว ควรหาเวลาไปเยี่ยมฟาร์มดังกล่าวเพื่อดูให้แน่ใจว่า สภาพความเป็นอยู่ของลูกสุนัข เป็นอย่างไร ความสอาดของกรงเลี้ยง ฯลฯ ตามปกติแล้ว breeder ที่ดี เขาจะพิถีพิถันในการเลือกผู้ซื้อ มากพอๆกับที่เราพิถีพิถัน เลือก คนขาย เพราะเขาต้องการให้แน่ใจว่า ผู้ซื้อมีความตั้งใจ และความเข้าใจในการเลี้ยงสุนัขพันธุ์นั้นๆ ดีพอ และลูกสุนัขของเขาจะได้รับการเลี้ยงดูที่ดีและถูกต้อง นอกจากการซื้อโดยตรงจาก breeder แล้ว ก็อาจจะหาซื้อจาก pet shop ทั่วๆไปได้ แต่ไม่แนะนำสำหรับสุนัขพันธุ์ผสมแบบนี้เพราะ ข้อเสียของการซื้อลูกสุนัขจาก pet shop ก็คือ เรามักจะไม่ได้สายพันธ์ที่บริสุทธ์จริงๆ เพราะ pet shop เหล่านี้ ไม่ได้ซี้อจาก breeder เท่านั้น แต่ยังซื้อจาก puppy mills ที่สนใจแต่ปริมาณ มากกว่า คุณภาพของลูกสุนัข ในบางครั้ง puppy mill เหล่านี้จะสนใจแต่การผลิตลูกสุนัข จำนวนมากๆ และละเลยในการ เลือกสายพันธุ์ที่บริสุทธ์จริงๆ ทำให้บางครั้งพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ มีสายเลือดใกล้กันมากเกินไป บางครั้งมาจากสายตระกูลเดียวกันก็มี ทำให้ ลูกสุนัขที่ได้จะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ในอนาคต

ขั้นตอนที่ 2 พยายามขอข้อมูลเกี่ยวกับพ่อพันธุ์ และแม่พันธุ์ สายพันธุ์ที่ดีจริงๆนั้น ควรจะมีประวัติว่ามาจากสายพันธุ์บริสุทธ์อย่างน้อย 3 ชั่วอายุ (generation) นอกจากนี้ควรจะขอดูประวัติเกี่ยวกับสุขภาพของพ่อพันธุ์ และแม่พันธุ์ รวมถึง ผลการตรวจสอบ genetic defect ที่เป็นปัญหากับสายพันธุ์นั้นๆ เช่น ปัญหาเกี่ยวกับสะโพก (hip dysplasia) ในสุนัขพันธุ์ใหญ่ๆ อย่าง German shepherds หรือ Labrador ปัญหาเกี่ยวกับ สายตา ไทรอยด์ หัวใจ ฯลฯ

ถ้าปัญหาดังกล่าวอยู่ในสายเลือดของ พ่อพันธุ์หรือแม่พันธุ์เสียแล้ว ก็เป็นการยากที่จะได้ลุกสุนัขที่ สมบูรณ์แข็งแรง มีลักษณะเด่นตามที่เราต้องการ เพราะปัญหาดังกล่าว จะถูกส่งต่อไปยังลูก หลาน เหลน ตามกฎแห่ง(พันธุ)กรรมที่อีตา เมนเดลว่าไว้ นานมาแล้ว เพราะฉะนั้น ก่อนที่เราจะจ่ายเงินเป็นพันๆเหรียญ เพื่อซื้อลูกสุนัขน่ารักๆ พวกนี้ ก็ควรจะแน่ใจว่าเราได้พันธุ์ที่ดีจริงๆ สมราคาคุย จะได้ไม่ต้องนอนเอามือก่ายหน้าผากภายหลัง

หมายเหตุ : ลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของบทความนี้ เป็นของผู้เขียนบทความแต่เพียงผู้เดียว ท่านผู้อ่านที่สนใจจะนำบทความนี้ ไปเผยแพร่ สามารถติดต่อได้ที่ info@cualumni.us