สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ในเครือสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์

                                         ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  CONTACT US

 

         

                              สุราก็แปลว่าเหล้า

                                    ตอนที่ 5                                                                   

                                                                                                    น.พ. สุวัฒน์ สุวรรณวานิช

กลับไปหน้า Facebook ของสมาคมฯ                  

 

          มีคำหนึ่งที่ลืมแจกแจงให้รู้แจ้งแดงแจ๋ คือคำ ALDH มาจากคำว่า Aldehyde Dehydrogenase คำไหนที่ลงท้ายด้วย ASE แปลว่าน้ำช่วยทำการเปลี่ยนแปลงหรือน้ำย่อย ภาษาเคมีเรียกว่า Enzymes ก็อย่างตัว ALDH คือตัวที่จะย่อย ALDEHYDE ไงครับ หายงงหรือยังครับ เหนื่อยกับภาษาพวกนี้จริง

          กลับมาคุยเรื่องสุราใหม่ เมื่อกินเหล้านาน ๆ เข้า เซลล์หรือเนื้อของตัวเองจะถูกพิษสุราทำลาย โดยมีไขมันเข้าไปแทนที่เซลล์หรือเนื้อตับ Fatty Infiltration เซลล์จะพองตัว อาจใหญ่จนเป็นเม็ด cyst พุ ๆ พอง ๆ คือตับจะพองโตขึ้นและไม่เรียบ หมอเขาเลยเรียกว่า ตับโต Hepatomegaly ขั้นนี้ถ้าคนไข้กลับเนื้อกลับตัว ตั้งหน้าตั้งตากินเจ แต่ไม่ใช่เจที่ทำจากยอดข้าว ผมหมายความว่าหยุดกินเหล้ารักษาศีล และให้กินของพวกอาหารที่มีคุณค่าแต่ไม่ใช่อาหารจำพวก ชีวจิต อ้ายพวกนี้ยิ่งกินยิ่งตายทั้งเร็วเข้า  ตับอาจจะฟื้นตัวได้ อย่างต่ำเหลือแค่ครึ่งก็ยังดี เพราะตับมันพอจะงอกคืนมาได้ ถ้าไม่ยอมหยุดมันก็พังไปเรื่อย ๆ ไขมันที่แทรกอยู่ก็แตกสลายไป จากนั้นเซลล์ก็ตายมีพังพืดเข้าไปแทนที่เรียกว่า Fibrosis  ไฟโบรซิส หรือที่เขาเรียกว่าตับแข็ง เพราะมันทั้งหดทั้งตาย หมอเขาเรียกให้เท่ห์ว่า Cirrhosis เซอร์โรซิส อย่างที่จอมพลทรราชนักมั่วรักผ้าขาวม้าแดงเขาเป็นกัน ชักไม่ค่อยอยากบรรยายอาการอันทุเรศต่อ เพราะผมก็มีเพื่อน ๆ เขายังชอบดื่มอยู่มากเดี๋ยวจะทำให้เขาหมดสนุก แต่เอาเถิดมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ต้องเขียนต่อซิครับ ลืมเพื่อนฝูงเขาไว้สักพัก หรือถ้าเขาเกิดได้อ่านก็คิดว่าผมทำบุญโปรดสัตว์ก็แล้วกัน

          ก่อนจะถึงขั้นท้าย ๆ นี้ คนไข้จะเป็นโรคขาดอาหาร น้ำหนักลด ไม่มีแรง ตัวชักเหลืองหรือเขียวหน่อย ๆ เหมือนพระอินทร์ เนื้อตัวคันไปหมด ท้องเดินบ่อย

          ตอนแรกหมออาจจะคลำตับเจอแต่ขั้นท้าย ๆ มันจะหดตัว ถ้าถึงตอนนี้แล้ว ท้องชักโตขึ้นเป็นน้ำในท้องเรียกว่าท้องมาร เขย่าท้องจะมีน้ำกระฉอก หน้าอกและท้องจะมีเส้นเลือดดำวิ่งให้เห็นสวย ๆ หลายเส้น ผู้ชายเกิดนมโตได้ด้วย Gynecomastia ไกเนโคแมสเตีย บางองค์ เฮ้ยไม่ใช่ดูผิดคิดว่าเป็นพระอินทร์ เพราะตัวเหลือง ๆ เขียว ๆ อาจมีอาการกระอักเลือดแล้ว เพราะเส้นเลือดดำที่ขยายตัวอยู่ในหลอดอาหารมันแตก ถ้าอยู่ถิ่นไกลก็คงเลือดออกจนตาย คนไข้ท้องบวมมาก พวกนี้จะบ่นท้องอึดอัดเหลือเกินอยากให้หมอดูดเอาน้ำในท้องออก เห็นบางคนพยายามเอาตะปูหรือเข็มแทงท้องตัวเอง เพราะอึดอัดจนทนไม่ไหว บางคนพอดูดน้ำเหลืองในท้องออกชักสบายก็หนีกลับบ้านไปดื่มต่ออีก ถ้าไม่ตายจากกระอักเลือดก็ตายเพราะหัวใจวายเพราะไม่มีอะไรเลี้ยงร่างกาย นอกจากเหล้า

          ส่วนสมองนั้น เซลล์ของสมองไม่ว่าอยู่ที่ส่วนไหน เยื่อหุ้มเส้นประสาท Myeline Sheath ก็จะค่อย ๆ ถูกสุราละลายไป แล้วก็ลามเข้ามาถึงตัวเซลล์ของสมอง ที่เรียกว่า Axones จนหายไปทีละตัว แล้วก็หายเป็นหย่อม ๆ หรือช่อง ๆ ไป โดยมีเยื่อพังผืดอื่นเข้ามาแทนที่ Gliosis ถึงตอนนั้นสมองก็หดเล็กลง ถ้าผ่าสมองออกดูบนด้านนอกที่ดูเป็นคู ๆ เหมือนทุเรียน คูมันจะเล็กลง และทั้งสมองจะเล็กลงด้วย ผ่าสมองด้านในช่องว่างจะมีมากขึ้น Ventricles หรือหนองน้ำในสมองจะขยายตัวมากขึ้น คือเนื้อสมองน้อยลง

          ตอนดื่มเมานี่เพราะเหล้าไปทำให้เส้นประสาทต่างไม่สมานสามัคคีกันเพราะมันไปทำให้ข้อต่อไฟฟ้ามันขาดกัน คนเมาก็มีอาการที่ทำอะไรไม่สัมพันธ์กัน อย่างเช่นพูดไม่ชัด เดินเซไป เซมา เพราะตากับขามันไม่ประติดประต่อกัน จะเดินเป็นเส้นตรงไม่ได้ ตาลายเพราะบังคับให้ตาจ้องมองไม่ได้ ความยับยั้งชั่งใจน้อยลง หรือไม่มี แค่ขั้นนี้เรียกว่า Acute alcoholic Toxication. ถ้าตอนขับรถ แล้วถูกจับ ก็เรียกว่า DUI Driving Under Influence  วันนั้นก็ต้องเข้านอนตะรางก่อน ถ้าตรวจเลือดมีระดับ แอลกอฮอล สูงเกิน 0.08 %

เมื่อดื่มไปเรื่อย ๆ นาน ๆ เข้า สมองชักเบาอย่างที่เล่าข้างต้น เพราะทั้งหดทั้งฝ่อ เหี่ยว เขาเรียกว่า Alcoholic Dementia ความจำชักจะกลับบ้านเก่า คือไม่ว่าความจำปัจจุบัน ชั่วครู่ที่แล้ว และความจำแต่นมนานมาจะเสียหมด  ตามปกติมนุษย์จะมีความจำอยู่สามระยะ คือความจำเดี๋ยวนั้น เช่นเขาบอกเบอร์หวยหรือเขียนเบอร์โทรศัพท์เจ็ดตัว เราจะจำได้และหมุนโทรศัพท์ได้ทั้งเจ็ดตัว แต่ถ้าไม่จดไว้หรือท่องไว้เดี๋ยวก็จะลืม อย่างนี้เรียกว่า  Immediate Memory. ความจำที่ว่าไปกินอาหารเช้า เที่ยงหรือเย็นมานี้ เรื่องที่เพิ่งคุยจบลงหยก ๆ อย่างนี้เรียกว่าความจำแบบ Intermediate Memory  ชื่อพ่อชื่อแม่ เหตุการณ์เกิดแต่เด็ก ๆ ในโรงเรียนเก่า  การเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล อย่างนี้เป็น Long  or Remote Memory

 เขา ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าความสั้นหรือนาน อยู่ที่ว่าการผ่านของกระแสไฟฟ้าที่นำความจำนั้นเข้าสมอง มันเกาะตัวเซลล์สมองได้มากขนาดไหน ถ้าเบอร์โทรศัพท์เจ็ดตัว หรือเบอร์หวยมันก็พอเกาะอยู่สักเดี๋ยว แล้วก็เสื่อมไป แต่ที่นานหน่อย มันอาจวิ่งวนเวียนอยู่นาน พอเป็นรอยบนเนื้อสมองให้เรียกคืนมาได้ แต่ที่นานแล้ว รูปพ่อ แม่พี่น้องหรือเหตุการณ์เจ็บปวดในเด็ก มันจะพิมพ์เป็นรูปเหมือนลงในคอมพิวเตอร์ชิปอย่างนั้นแหละ เขาเรียกว่า Ingram พวกนี้จำนานจนตายเลยละ ความจำที่เกลียดกลัวมากหรือชอบพอใจมาก จะถูกฝังอย่างลึกทีเดียว อาจจะแกะไม่ออกเลยทั้งชาติ พอมีอะไรมาสะกิด ความจำนั้นจะโผล่ออกมาโดยเราไม่ได้ตั้งใจเลย ทำให้เราเกลียดหรือชอบพอบางสิ่งบางอย่างที่คล้าย ๆ กับที่มีในความทรงจำของเรา บางเรื่องเจ็บปวดหัวใจมาก จนทำอะไรไม่ถูก อย่างนี้เป็น Post traumatic syndromeที่อธิบายนี่ชักจะเข้าเรื่องขันธ์ห้ามากไปแล้ว อย่าดีกว่าให้เป็นเรื่องทางพระท่านดีกว่า

          สุราบาลนี่ความจำจะเละเทะ บางครั้งเมื่อเล่าอะไร เพราะจำไม่ได้ ก็เลยเอาอะไรที่เคยผ่านเข้าสมองมาผสมจนกลายเป็นพูดโอ้อวด โรคนี้แบบเดียวกับพวกเป็นซิฟิลิสขึ้นสมอง เขาเรียกว่า Grandeur ต้องเรียกว่า คุยชิบผาย” Confabulation

          นอกจากนี้พวกนี้จะตัดสินใจผิด ๆ คิดอะไรรวบรัดไม่ได้ เช่นจากแอลเอจะไปลาสเวกัส ให้นึกเป็นฟรีเวย์เป็นฉาก ๆ ตามนัมเบอร์ไม่ได้ และต้องเตรียมอะไรไปด้วยกับรถยนตร์ก็นึกไม่ได้  คือกะการณ์อะไรไม่เป็น  ตาฝาด อ่านอะไรผิด ๆ พูดผิดฟังผิด ชอบชวนคนเขาต่อยกัน คือว่าไม่คิดว่าต่อยแล้วจะถูกตำรวจจับหรือเปล่า หรือเขาตัวใหญ่กว่าอาจจะทุบจนตัวเองแบนลงกับพื้นก็ได้ คือหมูจะถูกช้างเหยียบเอายังไม่รู้ตัว คือว่ากะการณ์ไม่เป็น แต่เป็นคนชอบหาเรื่อง

          นอกจากพิษสุราทำลายสมอง การขาดอาหารเป็นของธรรมดา โดยเฉพาะพวกไวตามิน โปรตีน ไขมัน แร่ธาตุ แป้ง ทั้งหลาย เลยทำให้แขนขาเปลี้ย เดินไม่ตรง แล้วในที่สุดก็แขนขาลีบเดินไม่ได้ เพราะสมองส่วนเกี่ยวข้องนี้ถูกรบกวนและทำลายด้วย

           

               กลับไป ตอนที่ 4                                                   อ่านต่อ ตอนที่ 6          

                                            กลับไปหน้า Facebook ของสมาคมฯ

 

หมายเหตุ : ลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของบทความนี้ เป็นของผู้เขียนบทความแต่เพียงผู้เดียว ท่านผู้อ่านที่สนใจจะนำบทความนี้ ไปเผยแพร่ สามารถติดต่อได้ที่ info@cualumni.us             

                                                       

                                 ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  CONTACT US

                          Copyright 2015 Chulalongkorn University Alumni Association of California