สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ในเครือสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์

                             ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

 

         

                                               โรคไอ

                                                                   ตอนที่ 1

                                                                                                          น.พ. สุวัฒน์ สุวรรณวานิช

โรคไอ (Cough) และโรคปอด

การไอเป็นอาการชนิดหนึ่ง ไม่ได้บอกว่าจากโรคอะไร ไอและท้องเดินเป็นการรักษาและป้องกันร่างกายเราชนิดหนึ่ง โดยทำหน้าที่ขับเศษขยะ ของเป็นพิษ และเชื้อโรคออกจากร่างกาย

ก่อนจะเล่าต่อไปต้องให้ดูรูปของปอด จะเห็นว่าปอดนี้อยู่ในทรวงอกโดยมีซี่โครงกันการกระทบกระแทก และด้านร่างมีกระบังลมของทรวงอกทำให้ปอดนี่ถูกหุ้มห่อมิดชนิด ปอดนี่จะบานอยู่เสมอ แต่จะบานออกมากขึ้นเมื่อหายใจเข้า แล้วยุบลงหน่อยตอนหายใจออก เพราะว่าระหว่างทรวงอกกับปอดนั้นมีช่องว่างอยู่ และมีน้ำหล่อลื่นทำให้ปอดกับทรวงอกไม่ติดแนบกัน ช่องว่างนี้จะมีความดันติดลบอยู่ ปอดถึงบานออกได้ ถ้าใครโดนมีดเสียบที่ทรวงอกนี้ ช่องว่างนี้ก็จะมีความดันเป็นบวก เพราะลมทางนอกเข้า ก็จะทำให้ปอดถูกบีบแฟบลง หายใจไม่ได้อาจตายได้ แต่โชคดีเรามีปอดสองข้าง ข้างหนึ่งยุบไปอีกข้างก็ต้องทำงานมากขึ้น

ต่อไปก็จะให้เห็นปอดมันทำงานยังไง เมื่อเราหายใจเข้าทางจมูกก็จะไปถึงทางเปิดของหลอดลม ตรงนี้มันเป็นสี่แยก โดยมีหลอดอาหารมาตัดผ่าน พออากาศมาถึงตรงนี้ มีด่านปิดเปิดจะให้ลมผ่าน หรืออาหารผ่าน จะได้ไม่สลับทางเดินกันเข้าผิดที่ ด่านนี้เรียกว่า Epiglotis ที่มีหลอดเสียง Larynx คอยปิดเปิด จะเปิดให้ลมผ่านแล้วเข้าทางหลอดลมใหญ่  ตรงสี่แยกนี้มันสำคัญ ถ้าปิดเปิดผิดเวลาตอนทานอาหารอยู่ เพราะหลอดอาหารนั้นอยู่ทางด้านหลัง ไม่มีประตูกั้น ถ้าเกิดไปกลืนอาหารตอนประตูของหลอดเสียงเปิดอยู่ อาหารก็ตกเข้าทางปอด เกิดระคายเคืองขึ้นอย่างใหญ่โต เราเรียกว่าสำลัก ฝรั่งเรียกว่า Choking ถ้าอาหารชิ้นเล็กหรือน้ำ ก็จะถูกสำลักออกมาโดยลมหายใจจากทรวงอกบีบอย่างแรงเขาว่าความดันที่ขับออกมามีความเร็วถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหมือนลมสลาตัน ขับออกมาทันที  แต่ถ้าเป็นก้อนใหญ่ก็จะติดอยู่แล้วหายใจไม่ได้ ถ้าไม่มีใครช่วยโดยวิธีกดดันที่กระบังลมที่ท้อง Heimlich maneuver ก็อาจหมดลมหายใจตายได้ ดังนั้นผู้ใหญ่ควรจะหัดเรียนที่ สมาคมโรคทรวงอก หรือกาชาดของอเมริกา

เมื่อลมหายใจเข้าหลอดลมเส้นใหญ่ Trachea เป็นท่อตรง พอลงถึงปอด ก็แตกแขนงเป็นเส้นขนาดกลาง Bronchus จากนี้ก็แยกให้เล็กลงไปอีก เรียกว่า Bronchioles จากท่อเล็ก ๆเหล่านี้ เมื่อถึงตอนปลายของมันก็จะมีถุงลม Alvioli เกาะติด และมากขึ้นจนถึงตอนปลายก็จะเป็นพวงเลย เหมือนพวงองุ่น เกาะอยู่กับกิ่ง

ท่อลมเล็ก ๆ เหล่านี้จะมีกล้ามเนื้อรัดหุ้มอยู่ ส่วนถุงลมเล็ก ๆ เหล่านี้จะมีเส้นเลือดดำและแดงห่อหุ้มอยู่ นี่คือปลายทางของท่อลมหายใจ และของเส้นเลือดแดงและดำที่เล็กที่สุดซึ่งจะเห็นเม็ดเลือดดำนำเอาอากาศเสีย คาร์บอนไดอ็อกไซด์มาเทออกที่ถุงลมนี้แล้วดูดเอาอากาศดีคือ อ็อกซีเจ้นกลับเข้าในเม็ดเลือด เลยกลายเป็นเส้นเลือดแดง กลับเข้าเส้นเลือดแดงโต แล้ววนเข้าหัวใจ แล้วหัวใจก็บีบส่งไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ 

ในท่อลมเล็ก ๆ เหล่านี้จะมีขนคอยกวาดเอาของเสียที่มาติดอยู่กับน้ำเมือก Mucous ออกไปทางท่อลมใหญ่ แล้วมากองกันเข้าเป็นน้ำเมือกกองแล้วก็ถูกขับออกจากปอด ถ้ากองน้อยก็กระแอมออกมาทางปาก หรือไม่ก็กลับกลืนเข้าทางท่ออาหารเข้ากระเพาะไป รสชาติคงจะเค็ม ๆ ดี ไม่เป็นไรครับกลืนเสมหะของตัวเอง ไม่เกิดโรคอะไรหรอก

การไอก็คือการขับเอาของเสียออก เช่น เม็ดเลือดขาวที่ฆ่าตัวเชื้อโรค ควันพิษ เช่นควันบุหรี่ น้ำเมือกที่มากมายโดยเกิดจากโรคการแพ้ Allergy หรือจากโรค Cold ก้อนเนื้อที่เกาะติดที่ท่อ จากมะเร็ง Cancer นอกจากนี้ยารักษาโรคบางอย่างก็ทำให้เกิดการไอบ่อย ๆ ได้ ผมจะเล่าเรื่องของโรคที่ทำให้ไอ และการรักษา

          สาเหตุของการไอ ก็มีมากมาย แต่จะให้ที่คุ้น ๆ

ไอจากความเครียด ยิ่งเครียดมากยิ่งไอมาก แถมถอนหายใจบ่อย อึดอัดที่ทรวงอก อย่างนี้จะรู้ได้ตอนนอนหลับจะไม่ไอเลย อาการจะคล้ายเป็นโรคเรื้อรัง แบบนี้คงต้องรักษาด้วยยาแก้โรคประสาทและความเครียด

ไอจากยาบางอย่างแต่ที่แน่ ๆ ก็คือยาจำพวกลดความดันชนิดหนึ่งเรียกว่า ACE inhibitor และรักษาโรคหัวใจล้มเหลว Congestive heart failure ที่เห็นใช้ก่อนมากที่สุดคือ Lotensin, Capoten, Zestril ถ้าเปลี่ยนเป็นยาจำพวกอื่นอาการจะหายไป

ไอจากลิ้นไก่โต Uvula อ้ายลิ้นไก่นี่เวลามีอาหารหรือน้ำมาถูกก็จะไอ ถ้ามันโตผิดปรกติ แม้จะไม่มีอาหารหรือน้ำมาถูก เวลามีหวัดเกิดขึ้นก็จะไอมากผิดปรกติ วิธีรักษาก็ต้องตัดออกหรือทำให้เล็กลง

         ไอจากหัวใจล้มเหลว พวกนี้จะเกิดมีน้ำท่วมปอด ทำให้ต้องไอบ่อย และทำให้หายใจลำบาก การรักษาก็ต้องหาหมอกินยาขับน้ำ ทานอาหารจืด และรักษาโรคหัวใจพร้อมกันไปด้วย

การไอจากโรคหวัด หมอเขาเรียกเสียสวยว่า URI chronic respiratory infection หรือ Cold ขอโทษ ไม่มียาป้องกันหวัด มีแต่ป้องกันไข้หวัดใหญ่ Influenza. เพราะว่าหวัดธรรมดานี้ เกิดจากเชื้อไวรัสตัวใดตัวหนึ่งในสองร้อยกว่าตัว ถ้าเกิดจากหวัดจะไอมีเสมหะสีขาวอยู่สี่ห้าวัน น้ำมูกไหล แต่บางคนหลังหายจากหวัดแล้วก็ยังคงไอต่ออีก คล้ายกับเป็นการแพ้ Allergic อยู่นาน ก็เลยไอต่ออีกอาทิตย์ สองอาทิตย์ อย่างนี้รักษาเอง ถ้าแน่ใจว่าไม่มีไข้ หรือเสมหะมีเลือดปน ใช้ยาระงับไอและอาการแพ้ เช่นที่ขายในตลาดไม่ต้องมีใบหมอ เช่น Benylin DM, Robitusin DM, Tussin อะไรพวกนี้

เมื่อไข้หวัดจากไวรัสเกิดมีเชื้อแบคทีเรียเข้าแทรก ก็จะเรื้อรังและมีไขัอ่อน ๆ  อย่างน้อยสองสามอาทิตย์ มันจะเล่นงานตั้งแต่ช่องกระบอกเสียง ท่อหายใจตรง และท่อเล็กท่อน้อยในปอด แบบนี้ก็ต้องให้หมอดูละ กินยาปฎิชีว นะ และยาแก้ไอ ถ้าจะให้มันแรงก็ต้องมีใบหมอ เป็นพวกบวกสารโคดีนอยู่ด้วย นอกนี้ก็มียาขับเสมหะ เรียกว่า Guifenasin ถ้าสงสัยมากก็ต้องให้หมอตรวจดูว่ามีมะเร็งหรือเปล่า

 ถ้าเป็นพวกนักเป่าควัน ไอมากจนหมดสติ พวกนี้มักจะไอเรื้อรัง น้ำหนักมาก สูบบุหรี่จัด และดื่มเหล้าจัด อย่างนี้ก็ต้องรักษาหลาย ๆ ด้านละครับ

อาการไอ และมีเสียงหวีดหวิว Wheezing หายใจลำบาก อย่างนี้ก็ต้องเป็นโรคหืด ก็ต้องใช้ยาขยายหลอดลม ตั้งแต่ยาเป่า ยาเม็ด ยาน้ำและต้องแก้ต้นเหตุว่า หืดนี้เกิดจากอะไร

ไอจากการกลืนอาหารบางส่วนหลุดเข้าทางท่อลมหายใจ หรือกินอาหารเผ็ดมาก ไประคายเคืองท่อทางหายใจ ถ้าไม่ถึงกับมีอาหารหลุดเข้าทางหลอดลมจนปิดท่อ หายใจไม่ออก ก็ต้องใช้วิธี Heimrich Maneuver คือกดรัดที่กระบังลมให้ลมในท้องดันของที่ขวางอยู่ออกมา ถ้าเพียงแต่ไอแรง ๆ เพราะสำลัก อย่างนี้ก็ต้องดื่มน้ำอุ่น ๆ ค่อย ๆ ดื่ม และหายใจลึก ๆ

ไอหลังจากย้ายบ้านหรืออพาร์ตเม้นต์ใหม่ หรือซื้อ หมา แมว มาเลี้ยง แล้วเกิดการแพ้ สัดว์เลี้ยงหรือพรมที่มีเชื้อที่เราแพ้ติดมาด้วย อย่างนี้ก็ต้องเชิญคุณ หมา แมวออกจากบ้าน หรือเปลี่ยนพรมใหม่ และกินยาพวกแก้แพ้ไปด้วย

อาชีพที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมที่มีฝุ่นมาก ก็ต้องใส่เครื่องกันฝุ่น คนงานพวกนี้มักจะเป็นปอดเรื้อรัง แบบ Brochiectasis ซึ่งบางส่วนของปอดถูกทำลายไปได้ จะเห็นพวกนี้มักจะมีท่ออ๊อกซีเจ่นช่วยหายใจ โรคปอดอักเสบเรื้อรังนี้จะไอเรื้อรังเป็นเสมหะเหนียว พวกนี้ก็ต้องกินยาปฏิชีวนะระยะยาว และให้ระบายเสมหะออก

ไอจากมะเร็งของปอด อาจจะเกิดจากตัวปอดเองหรือแพร่มาจากที่อื่น วิธีรักษาก็ต้องผ่าตัด คีโมเธอระปี้ Chemotherapy และการฉายแสง แต่โอกาจจะมีชีวิตยืนยาวคงลำบากหน่อย

ไม่กี่ปีมานี้ มีโรค ที บี เพิ่มมากขึ้นในหมู่ชาวเอเชียที่ย้ายมาจากประเทศอื่น แล้วยังอยู่ในบ้านที่แออัด แล้วเกิดไอเรื้อรัง ควรจะหาหมอตรวจปอดว่าเป็นโรค ทีบีหรือเปล่า

          ทุกครั้งที่นักเป่าควันมาหลายปี แล้วเกิดมีการไอนานกว่าสองสามอาทิตย์ หรือมีเสมหะติดโลหิต อย่างนี้ต้องหาหมอตรวจว่าเป็นมะเร็งหรือเปล่า

 

                                                                                                                          อ่านต่อ ตอนที่ 2   

 

หมายเหตุ : ลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของบทความนี้ เป็นของผู้เขียนบทความแต่เพียงผู้เดียว ท่านผู้อ่านที่สนใจจะนำบทความนี้ ไปเผยแพร่ สามารถติดต่อได้ที่ info@cualumni.us             

                                                       

                     ABOUT US  |  EVENTS  |  NEWS  |  ALUMNI BOARD  |  WEBBOARD  |  CONTACT US

                          Copyright 2007 Chulalongkorn University Alumni Association of California